[SR]ไขข้อข้องใจ!!! ทำไมถึงนิยมไปทำหน้าอกกันที่เกาหลี มันต่างอย่างนี้นี่เอง

สวัสดีจ้าสาวๆ ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง เรายุ้ยเอง พึ่งตั้งกระทู้เองเป็นกระทู้แรก
สำหรับผู้หญิงอกเล็กแบบเราๆ ถือว่าเป็นวาระใหญ่แห่งชาติค่ะ เราก็แบบอยากจะใส่เสื้อสวยๆ เพื่อให้ดูมีสง่าราศี แต่ของยุ้ยเองเนี่ย อกเล็กไม่พอมันดันมีปัญหาเรื่องหย่อนด้วย นี่ชั้นอายุยังไม่ถึงวัยที่จะต้องมาเจออะไรแบบเน้ กรี๊ดดดดดด~~ ความพีคกว่าคือคุณนายแม่และแฟนของยุ้ยเองเนี่ยถึงขึ้นเอ่ยปากว่า ไปทำนมเถอะ T^T โอ้ยยย เศร้าในเศร้า
ถ้าจะทำก็แอบกลัว เพราะไปศึกษามาบางคนเมายาสลบบ้าง ทำมาไม่ได้ทรงบ้าง ดูปลอมบ้าง เจ็บแผลบ้าง โอ้ยยย สารพัด
อ่านจนรู้สึกว่าตัวเองประสาทเสียไปเลย
จนยุ้ยไปปรึกษาเพื่อน คุณเพื่อนที่แสนดีก็บอกว่าลองไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีดู เผื่อชีวิตจะดีขึ้น (มีการตอกย้ำไปอีกกกก) นางก็แนะนำ charmiin มาให้ เราก็แบบเอ้จะดีเหรอ อ่ะ ลองเซิร์ชดู ก็เจอพวกรีวิว อ่านไปอ่านมาเห้ยย มันก็น่าสนใจดีนี่ ดูน่าเชื่อถือ แถมมีการันตีจากคนเกาหลีเยอะดีด้วย
เลยโอเคงั้นลองโทรคุยดู ไม่เสียหาย
พอโทรคุยปุ๊ป เราค่อนข้างโอเคกับคำแนะนำเค้านะแบบแฟร์ๆ กันไปเลย ไม่ต้องจ่ายก่อน ได้เรทเกาหลี หลังจากคุยกับ BA เสร็จเรียบร้อยเราเลยส่งรูปหน้าอกเรา และรูปตัวแบบ 360 องศา ดูได้จากภาพประกอบจ้า

เพื่อที่จะส่งไปให้คุณหมอประเมินว่าต้องไรบ้าง และราคาเท่าไหร่ รอไม่นานมากนะจำได้ว่า 1-2 วันนี่แหละ รู้ผลละ BA ก็ชี้แจงว่าเราต้องทำไรบ้างทั้งเสริม ทั้งยกกระชับ คูณหมอก็แนะนำมาว่าอย่างเราเนี่ยต้องทำแบบไหน ซึ่งเราก็พึ่งรู้ว่ามันมีซิลิโคนแบบเนื้อทรายด้วย ปกติจะเคยได้ยินแต่แบบเจล ฟังมาแล้วคือเราต้องทำเยอะมาก เบ็ตเสร็จเคสยุ้ยอยู่ที่ 600,000 บาท เคลมภาษีคืนได้อีก 10% ไม่รวมค่าโรงแรมกะที่พัก คุณหมอแถมเลเซอร์หน้าใส กระชับรูขุมขนให้ด้วย เพราะบอกว่าอยากให้ลองเครื่องของเกาหลี แตกต่างจริงๆ เห็นผลตตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่ด้วยความโชคดีของยุ้ยนั้น คือยุ้ยได้รับคัดเลือกในแคมเปญ The idol กรี๊ดดหนักกมากก จะรออะไรล่ะคะ ไป 7 วันเหรอ ก็ไม่ใช่ปัญหาจ้า55 เตรียมตัวจัดกระเป๋าเลยทันที ช้าก่อนอย่าใจร้อนไปยุ้ย เพราะก่อนไปคุณหมอที่เกาจะให้เราไปตรวจเลือดก่อน เพื่อส่งผลเลือดเราไปล่วงหน้าก่อนเดินทาง พร้อมกับส่งลิสต์มาให้ว่าเราต้องไปตรวจอะไรบ้าง ซึ่งแบบของยุ้ยตรวจเยอะมากก จนหมอไทยที่ตรวจถามว่าทำไมตรวจเยอะจัง จุดนี้ยอมรับเลยค่ะว่าคุณหมอที่เกาเค้าละเอียดมากและรอบคอบมาก ต้องเช็คทุกอย่าง หรือแม้แต่รูปถ่ายเราก็ต้องให้เค้าดูทุกมุมจริงๆ ทีนี้ทุกอย่างพร้อมแล้วว ก็เตรียมออกเดินทางค่าาา (มีความหน้าบานหน่อยๆ)

Day 1: ที่พัก – โรงพยาบาล
ลงเครื่องปุ๊ปก็จะมี BA ส่วนตัว มารับที่สนามบิน พาไปเช็คอินโรงแรม ยุ้ยได้พักที่ Designer Hotel ย่านกังนัม ซึ่งถ้าจองผ่าน Charmiin จะได้ราคาพิเศษและอยู่ใกล้โรงพยาบาล พอช่วงบ่ายพี่ BA ก็พาไปพบคุณหมอคิม (บอกไว้ก่อนว่าคุณหมอเป็นผู้หญิงน้า) ยุ้ยขอเพิ่มเติมนิดนึง ว่านี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เลือกนี่ เพราะคุณหมอผู้หญิงจะเข้าใจสรีระของผู้หญิงมากกว่า และรู้ว่าทำอย่างไรจะดูสวยเป็นธรรมชาติ


เล่าต่อ ยุ้ยเข้าพบคุณหมอ เพื่อดูหน้าอกของเราอีกครั้ง และให้คำแนะนำก่อนผ่าตัด รวมถึงสรุปวิธีการทำ และวัสดุซิลิโคนที่ทำให้เราอย่างละเอียด สรุปอีกครั้งคือ เสริมหน้าอกแบบยกกระชับทรงหยดน้ำ ใช้ซิลิโคนเนื้อทราย ด้านขวาใส่ 370 cc ด้านซ้าย 300 cc และใช้เทคนิคยกกระชับหน้าอกเสริมใต้กล้ามเนื้อ โดยผ่าตรงใต้ราวนม (หมอบอกว่าแผลจะเล็กมาก 3 ซม. พออุ่นใจหน่อย555) หมดจากตรวจเสร็จ BA ก็พายุ้ยกลับโรงแรมเพื่อไปนอนพักเอาแรง

Day 2: Laser day @ Club Miz 9 Lamiche
วันนี้มาทำเลเซอร์ก่อนทำศัลยกรรม เพราะกลับไปจะได้สวยเป๊ะ (หน้าก็ใส นมก็มา) เรามากันที่ รพ. Club Miz 9 Lamiche ถือว่าเป็นรพ. ผิวหนังและศูนย์เลเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี พอมาถึงปุ๊ปก็ตกใจเพราะยุ้ยคิดว่าเช้าแล้วคนน่าจะยังไม่เยอะ ตัดภาพมาคือคนมารอทำเยอะมาก
ยุ้ยก็ไปที่จุดลงทะเบียน เสร็จก็ไปรอคลีนหน้าเพื่อตรวจเช็คสภาพผิวหน้าด้วยเครื่อง Janus ที่จะเห็นผิวหน้าระดับลึกที่สุดย้ำว่าสุดจริงๆ สามารถเห็นว่าผิวหนังชั้นในเราเริ่มจะมีปัญหาอะไร ฝ้ากระกำลังจะมามั้ย เมื่อเข้าเครื่องสแกนผิวหน้าเสร็จก็เตรียมพบคุณหมอจู คือคุณหมอจูเองก็เป็นเจ้าของรพ. ลงมาดูคนไข้เอง ทำเลเซอร์เองเลย คือสุดยอดมากก ได้ใจไปเต็มๆ เลยย กลับมาเข้าเรื่องต่อ ภาพที่ท่านจะได้เห็นต่อไปนี้ไม่มีสเปเชียลเอฟเฟคใดๆ 555 คือจะเห็นได้ว่าเครื่องมันสามารถบอกอะไรเราเยอะมากก

คุณหมอก็เปิดรูปหน้าที่ได้จากเครื่องสแกน กรี๊ดในใจดังมากกก ทำไมหน้าชั้นมันเยินขนาดเน้ คุณหมอก็เลยจัดแพคเกจหน้าใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ กระชับรูขุมขน และทำให้ผิวเรียบเนียน พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวหน้าเราเด้งขึ้น เรียกว่าจัดไปชุดใหญ่ไฟกระพริบ5555 หลังจากฟังคุณหมออธิบายเสร็จเรียบร้อย ก็เตรียมแปะยาชาและทำเลเซอร์เลย

ระยะเวลาในการรวมแล้ว 4 ชั่วโมงได้ พอออกมาจากห้องเท่านั้นแหละ แทบตกใจตัวเองหน้าอย่างกะโดนผึ้งต่อยเลย แต่ทีนี่ทุกคนพอทำเสร็จก็จะเป็นแบบนี้ ซึ่งเราก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่ต้องทำตามคำแนะนำของรพ. ห้ามล้างหน้า 3 วัน เค้าจะมีให้ครีมเรามาทาหลอดเขียวๆ เพื่อช่วยลดอาการบวมกะไม่ให้หน้าแห้ง พอวันถัดๆ ไปหน้าจะเป็นสะเก็ด จุดนี้ย้ำหนักๆ ว่าห้ามแกะ !!! เพราะเดี๋ยวมันจะค่อยๆ หลุดไปเอง ความรู้สึกราวกับว่าผิวหน้าเราได้เกิดใหม่จริงๆ

Day 3: Surgery day @ Lamiche Plastic Surgery
วันนี้จะผ่าแล้วตื่นเต้นมากกกกกกกก อย่าลืมว่าต้องงดน้ำงดอาหาร พอทำไรเสร็จเรียบร้อย BA ก็มารับเราไปรพ. บอกว่าตกใจอีกแล้ว เพราะคนมารอเยอะมาก เหมือนภาพตัดของเมื่อวานเลย ของเค้าแน่นอนจริงๆ

เราก็มานั่งรอลงทะเบียน และพบคุณหมอคิมคนเดิม เพื่อเช็คสภาพร่างกาย คุณหมอก็อธิบายเป็นภาษาอังกฤษว่า หลังจากผ่าตัดเสร็จเราสามารถกลับไปพักที่โรงแรมได้เลย แผลจะค่อยๆยุบ ใน 1 สัปดาห์ และจะค่อยๆ เข้าที่ใน 1-2 เดือน ถ้าบางช่วงที่แปลไม่ออก BA ก็จะคอยช่วยเสริมให้ พอถามเรื่องต่างๆ ที่อยากรู้หมดแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาของยุ้ยแล้ววว จะมีพยาบาลมาพาเราไปรอที่ห้องพัก เพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัด


พอเจอคุณหมอคิม เท่านั้นแหละ นับถอยหลังไปได้ 10 วิ ก็ภาพตัดเลย ตื่นมาอีกที ก็เจอพยาบาลในห้องพักแล้ว พอเลื่อนตามองลงมาอีกทีก็เห็นผ้าพันที่หน้าอกแล้วนี่ชั้นผ่าตัดเสร็จแล้วเหรอ นอนพักจนฤทธิ์ยาสลยเริ่มจาง พยาบาลก็พาเราออกจากห้องมาส่งให้กับ BA ที่รอรับเราอยู่ ซึ่ง BA จะเป็นบุคคลสำคัญที่สุดสำหรับทริปนี้ เพราะเค้าจะคอยเทคแคร์เราตลอดเลย เสร็จปุ๊ปก็พาเราไปทานข้าว ซื้อยา พร้อมกับพาไปส่งที่โรงแรมเพื่อพักฟื้น

Day 4: วันพักฟื้น วันแรก
ความรู้สึกหลังผ่าตัด จากที่ได้ฟังใครๆมาเยอะ บอกเจ็บเหมือนรถสิบล้อทับนั้นมันไม่จริงเลยสักนิด ที่เห็นตามรีวิวว่าจะเขียวช้ำเลือดช้ำหนอง เจ็บจนลุกไม่ขึ้นนั้นก็ไม่มีเลย ไม่อาเจียนด้วย คงเป็นเพราะเทคนิคของคุณหมอที่นี่ดีมากๆ แผลผ่าแทบจะไม่มีรอย คือแผลนิดเดียวจริงๆ ตามที่หมอบอกไม่เกิน 3 ซม. ไม่บวม มีเจ็บตึงๆ วันนี้ก็ลุกได้เอง ลงมาทานอาหารเช้าที่โรงแรม และขึ้นไปนอนเล่น นั่งเล่นกับเพื่อน ตอนกลางวันและเย็น พี่ BA ก็จะซื้อข้าวมาให้ (จริงๆ เดินออกไปทานเองก็ได้ แต่คุณหมอบอกให้นั่งๆ นอนๆ ดีกว่าเพราะแผลยังใหม่อยู่) เรายังพันผ้าอยู่และห้ามโดนน้ำเป็นเวลา 3 วัน

Day 5: วันพักฟื้นวันที่ 2
วันนี้ยุ้ยลงมาทานข้าวเช้าที่โรงแรม แล้วก็นั่งเล่นนอนเล่น ดูทีวี พี่ BA จะมาหา ถามอาการ และซื้อข้าวมาให้ วันนี้ก็เจ็บตึงๆ แต่ไม่มาก คือเดินเหินได้ปกติ แต่อย่าโลดเต้นนะ555 (เจ็บเต็ม 10 ให้ 5 คะแนน)

Day 6: วันเช็คอัพแผลผ่าตัด
วันนี้ครบ 3 วันแล้ว วันนี้พี่ BA มารับไปหาคุณหมอเพื่อเอาผ้าพันแผลออก และเช็คแผล คุณหมอคิมบอกว่าแผลดีมาก ไม่มีไรต้องกังวล หน้าอกสวยแน่นอน พอเอาผ้าพันแผลออก คุณหมอจะติดพลาสเตอร์กันน้ำตรงแผลใต้ราวนมให้ และใส่เป็นเหมือนยกทรงที่มีรูตรงกลาง เพื่อประครองทรงหน้าอกของเรา คุณหมอบอกให้ใส่ไว้ 21 วัน เพื่อทรงที่สวยงาม จากนั้นเอาพลาสเตอร์และยกทรงออกได้ คุณหมอบอกว่าหลังจากนั้นให้ใส่เป็น functional bra 1-3 เดือน และห้ามจับหน้าอกอย่างน้อย 1 เดือน และอย่าใช้แขนหรือออกกำลังกายหนัก (เขียนให้มาละเอียดเชียว) พูดคุยกะคุณหมอเสร็จพี่ BA พาแวะทานข้าว และกลับมานั่งเล่นนอนเล่นที่โรงแรม ชิวกว่าที่คิดมากจริงงๆๆ

Day 7: บินกลับไทย
เช้านี้ตื่นมาไม่เจ็บแล้ว อาจจะมีตึงๆ นิดหน่อย พี่ BA มารับที่โรงแรม เอากระเป๋า เพื่อพาเราไปสนามบิน กลับไทยพร้อมความมั่นใจ
ทีนี้ก็จะเป็นผลลัพธ์ที่ได้หลังจากทำผ่านไป 2 เดือนนะด้าาา เปรียบเทียบก่อนและหลังทำให้ดูแบบ 360

ขอบคุณสำหรับพื้นที่รีวิวค่าา ~~

By | 2017-07-28T02:36:24+00:00 July 28th, 2017|Review|0 Comments

About the Author:

Leave A Comment