แชร์ประสบการณ์สวยเสกได้ บินไปศัลยกรรมเกาหลีใครว่ายาก

สวัสดีค่ะ เราชื่อหนูนะคะ วันนี้เราขอยืมแอคเคาท์จากน้องคนสนิทมาตั้งกระทู้นี้เพราะเราอยากจะแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวในการทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าเคยผ่านประสบการณ์ขึ้นเขียงมาแล้ว (ที่ไทย) ซึ่งจุดที่เรา คือ ตา จมูก คาง แต่ผลลัพธ์ยังไม่เป็นที่น่าพอใจจ้า

เราเลยตัดสินใจ เอาว่ะ!! ถ้าจะแก้แล้วก็แก้ให้คร้ังเดียวพอเพราะเคยเห็นบางคนแก้กันหลายรอบ ไอเราก็ไม่อยากจะเจ็บตัวหลายรอบ เสียเงินหลายรอบ เลยสนใจอยากจะลองทำศัลยกรรมและเลเซอร์ที่เกาหลี เพราะส่วนตัวเราค่อนเชื่อมั่นในหมอเกาหลีมากกว่า เลยเริ่มจากทำการค้นหาข้อมูลในเน็ตหนักมาก เรียกได้ว่าไม่เป็นอันนอน จนมีเพื่อนเราแนะนำ Charmiin มาให้ เราเลยหาข้อมูลดู พบว่าที่นี่เค้าดังในหมู่คนเกาหลีมากๆ แต่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก เพราะเค้าจะไม่ค่อยรับเคสนอก ส่วนใหญ่จะทำให้คนเกาหลีและคนที่มากับ Chamiin ซึ่งคุณหมอของที่นี่ได้รางวัลตลอด และปีล่าสุดเค้าก็ได้รางวัลที่คนเกาหลีโหวตให้เป็นรพ.ที่ดีที่สุดในเกาหลีด้วย เราก็ยิ่งมีความเชื่อมั่นเข้าไปอีก ทีนี้เราก็เลยตัดสินใจส่งรูปพร้อมประวัติเราเพื่อส่งให้คุณหมอประเมินการทำและราคา ก็รอไป 1-2 วัน ก็รู้ผลเลยจ้า ซึ่งคุณพี่ BA ก็แนะนำว่าเคสของเราต้องไรบ้าง เบ็ตเสร็จคือ 5 แสนกว่าบาท นี่รวมทั้งทำศัลยกรรมและเลเซอร์ ไม่รวมค่าที่พักและค่าตั๋วเครื่องบิน ซึ่งเราว่าคุ้มมาก เพราะเคสเราถือว่าทำเยอะมากทั้งแก้ตา จมูก ฉีดไขมันหน้าเด้ง และเลเซอร์เกือบ 10 เครื่อง เพราะจากที่เราหาข้อมูลมาที่นี่ถือว่าถูกกว่าที่อื่น เพราะอย่างที่เราบอกไปว่าเราจะได้เรทคนเกาหลี แถมเราไปเคลมภาษีคืนที่สนามบินได้ 10% ด้วย คุ้มกว่านี้ไม่มีแล้ว แต่เหมือนได้โชค 2 ชั้น เพราะช่วงนั้นมีแคมเปญ the idol พอดีและเราได้รับคัดเลือกไปเกาหลี ไม่รีรอ…จัดการลางานด่วน พร้อมแพ็คกระเป๋าไปเกาหลีทั้งหมด 5 วัน

Day 1 เริ่มออกเดินทางจ้า ตื่นเต้นแค่ไหนเห็นได้จากหน้าเราค่ะ55

เราไปสายการบิน Eastar Jet จองผ่าน Charmiin จะได้ราคาพิเศษ Fast Lane (ตอนตรวจสัมภาระและผ่านตม.แบบทางพิเศษ ไม่ต้องต่อคิวนาน) และอัพเกรดนั่งที่นั่งแถวหน้าวีไอพีมากค่าาาา พอลงสนามบินก็จะมี BA มารับเราพร้อมกับพาไปที่เช็คอินที่โรงแรม เราได้พักที่ Designer Hotel อยู่ในย่านกังนัม จองผ่าน Charmiin ได้ราคาพิเศษอีกแล้วจ้า อีกทั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลด้วย นี่ๆ ห้องที่เราพัก

Day 2 ทำเลเซอร์
เช้านี้เรามาทำเลเซอร์กันก่อนที่ Club Miz 9 Lamiche เป็นรพ.เลเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีมีคนไข้มารอทำเยอะมากกกกกก (ดาราเกาหลีก็มาทำเยอะมากเห็นได้จากรูปในรพ.) เก็บบรรยากาศมาให้ดูกันค่ะ

พอถึงคิวตรวจก็เริ่มจากการตรวจสภาพผิวกันก่อนด้วยเครื่องที่จะเห็นผิวหน้าระดับลึกสุด เห็นชัดทุกชั้นผิว และสามารถดูได้เลยว่าผิวเรากำลังจะเริ่มมีปัญหาอะไร (อันนี้ไม่ทันได้ถ่ายรูปมา) หลังจากสแกนเสร็จเราก็รอพบคุณหมอจู ซึ่งคุณหมอเป็นเจ้าของรพ.เองด้วย แถมมาดูแลคนไข้เองด้วย เรียกได้ว่าปลื้มมากและมั่นใจมาก เพราะคุณหมอลงมือทำให้เองกับมือ

พอคุณหมอเปิดรูปหน้าสแกนของเราที่ได้มา ถึงกับโอ้โห ทำไมเยินขนาดนี้แต่ก็เป็นไปตามที่คุณหมอบอกตั้งแต่อยู่ไทย ก็ทำแพคเกจหน้าใส ลดฝ้า จุดด่างดำ ปรับผิวให้สม่ำเสมอ กระชับรูขุมขน กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และทำ VShape หน้าเรียว เรียกได้ว่ายกเครื่องหน้าเลยทีเดียว รวมๆ แล้วก็ทำเลเซอร์ประมาณ 8 เครื่อง เมื่อคุยกับคุณหมอๆ ก็จะอธิบายข้อมูลในการทำ หลังจากนั้นก็เคลียร์ค่าใช้จ่าย และเตรียมตัวรอทำเลเซอร์ ซึ่งรอไม่นานมากเพราะที่นี่มีห้องทำเลเซอร์เยอะมาก พอเข้าไปก็ทำการโปะยาชา รอประมาณ 30 นาที

คุณหมอก็เข้ามาทำให้เรา ระหว่างทำไปคุณหมอก็จะคอยถามตลอดว่าเจ็บมั้ย โชคดีว่ามียาชาก็จะไม่เจ็บมาก ทำแบบนี้วนไปจนครบ 8 เครื่องค่ะ ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. พอออกจากห้องมารู้สึกว่าหน้าเราเหมือนโดนผึ้งต่อยเต็มหน้า แต่ไม่ต้องตกใจไปค่ะทุกคนที่ทำจะเป็นแบบนี้ เมื่อทำเสร็จเราก็สามารถออกไปเดินเล่นและทานข้าวได้สบายค่ะ โดยทางรพ.จะบอกว่าห้ามล้างหน้าเป็นเวลา 3 วัน และเค้าจะมีครีมหลอดสีเขียวมาให้ บอกเลยว่าครีมเทพมากทาไปแล้วจะให้ความรู้สึกเย็นๆ จะช่วยลดบวมและเพิ่มความชุ่มชื่น ให้เราพกไว้ทาได้ตลอดวัน พอตื่นมาอีกวัน หน้าเราจะเริ่มเป็นสะเก็ดจุดดำๆ ห้ามแกะนะ เดี๋ยวมันจะค่อยๆ หลุดไปเอง แล้วหน้าเราก็ค่อยๆ ใสขึ้น ก่อนหมดวันนี้ เราขอโชว์หน้าสดของเรา ภาพก่อนทำศัลยกรรม

Day 3 วันทำศัลยกรรม
เช้านี้ตื่นมาด้วยความสดใส เตรียมตัวจะสวยแล้วว ตื่นเต้นสุด พี่ BA มารอรับเราไปรพ. Lamiche Plastic Surgery ย้ำนะ!! ว่าเราต้องงดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัดนะคะ เมื่อมาถึงรพ.มีคนรอทำกันเต็มเลย พนักงานทุกคนหน้าเป๊ะสุด แถมดูสวยเป็นธรรมชาติมาก เราก็มานั่งรอ มองไปรอบๆ ก็เห็นรางวัลมากมาย รู้สึกได้ถึงความมั่นใจเข้าไปอีกค่ะ
นี่เป็นมุมนึงในรพ.ที่เราเก็บภาพมาค่ะ

รูปคุณหมอประจำโรงพยาบาล

รางวัลเพียบ (นี่แค่บางส่วน)

มาลงทะเบียนกันก่อน

หลังจากลงทะเบียน ก็เปลี่ยนชุดคนไข้รอพบคุณหมอมินเพื่อตรวจเช็คร่างกาย และสรุปการทำศัลยกรรม  พออธิบายขั้นตอนต่างๆ ตรงนี้เราไม่ต้องห่วงเรื่องภาษานะคะ เพราะคุณหมอพูดกับเราเป็นภาษาอังกฤษและพี่ BA ก็คอยแปลให้
โดยคุณหมอมิน สรุปให้เราอีกครั้งตามนี้
•    ตา ต้องผ่าตัดเปิดหัวตา เพราะเราเป็นคนตาปรือนิดนึง และตาตก การเปิดตาจะช่วยให้ตาเราได้รูปมากขึ้น และผ่าตัดให้ตายกขึ้น สรุปคือตาจะกลมโตสวยขึ้นนั่นเอง
•    จมูกที่ทำมาปลายจมูกมันทิ่มลง และแท่งซิลิโคนใหญ่ไป และเป็นมีปัญหาปีกจมูกหนา คุณหมอจะยกปลายจมูกให้เชิดขึ้นนิดนึง เหลาสันจมูกให้เรียวขึ้น และตัดปีกจมูกให้ได้รูปเป็นธรรมชาติมากขึ้น ฉีดไขมันที่หน้าผาก โหนกแก้ม ร่องแก้ม ให้หน้าเด้ง ดูเด็กลง แถมดูมีมิติ หน้าโดยรวมฉีดจะเรียวขึ้นด้วย โดยจะดูดไขมันจากต้นขาของเรามาฉีด (ถึงได้ว่าสาวเกาหลีที่ผิวดูดี มีมิติ ฉ่ำวาว แม้หน้าสด เพราะแบบนี้นี่เอง)
หลังจากอธิบายเสร็จ คุณหมอก็เริ่มมาร์คจุดที่หน้า แล้วบอกเราว่าตากับจมูกจะยุบภายใน 1 สัปดาห์  และจะค่อยๆ เข้าที่ภายใน 2 เดือน หลังจากปรึกษาถามข้อสงสัยที่อยากรู้หมดแล้ว คะ ก็ถึงเวลาของเราและค่ะ

คุณหมอมาร์คจุดที่จะฉีดไขมัน ให้หน้าเด้ง มีมิติ

พยาบาลก็จะพาเราไปรอที่ห้องพัก ก็จะมีเตียงส่วนตัว ให้นั่งรอหรือนอนรอคิวผ่าตัดได้ เรียกได้ว่าเป็นส่วนตัวมากๆ
นี่คือห้องพักส่วนตัว นั่งรอ นอนรอคิวแปปเดียว

รอไม่นานพยาบาลก็จะพาเราไปที่ห้องผ่าตัด ให้กำลังใจตัวเอง^^ ก่อนเจอคุณหมอในห้องแล้วก็สลบไป

พอตื่นมาก็เจอพยาบาล นางก็บอกเราว่าให้พักก่อน รอจนฤทธิ์ยาสลบจางลงอีกนิด ถามว่าตอนนั้นไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย ถ้าไม่เห็นหน้าตัวเอง ก็ไม่ได้รู้สึกว่าผ่านการผ่าตัดมาก่อน พอยาสลบเริ่มหมด พยาบาลก็จะพาเรามาส่ง พี่ BA จะคอยรอรับเราและพาเราไปซื้อยา พร้อมทั้งอาหารให้เพื่อเรานอนพักที่โรงแรม (ปล. คนเกาหลีบางคนพอเค้าทำเสร็จเค้าก็กลับบ้านได้เลย เพราะที่นี่ ถือว่าการทำตา จมูก เป็นการศัลยกรรมเล็กๆ น้อยๆ มากสำหรับพวกเค้าเลยล่ะ)

ภาพหลังออกมาจากห้องผ่าตัด

Day 4: วันเช็คแผล เอาผ้าก๊อตในจมูกออก

วันนี้ตื่นมารู้สึกตึงๆ ทุกอย่างดูบวม แต่ก็น้อยกว่าที่เราคิดไว้ จะอึดอัดหน่อยๆ ตรงผ้าก๊อตที่อยู่ในจมูกนิดหน่อย (แต่ไม่เป็นไร สู้ค่า~~)
พี่ BA ก็จะมารับเราพาไปรพ. เพื่อให้คุณหมอดูแผล และเอาผ้าก๊อตในจมูกออก (โล่งขึ้นเลยย55) คุณหมอบอกว่าแผลโอเคเลย ก็จัดยาให้ทานตามที่หมอสั่ง แผลก็จะค่อยๆ ยุบลง พอเสร็จพี่ BA ก็จะพาเราไปรับประทานอาหาร และก็กลับพักผ่อนที่โรงแรม เรียกได้ว่าประทับการดูแลของพี่ BA มากๆ

Day 5 วันเช็คอัพแผลผ่าตัด และกลับไทย

วันนี้เริ่มชินแล้ว ไม่เจ็บ แต่อาจจะมีตึงนิดหน่อย ซึ่งเช้านี้พี่ BA ก็มารอรับเราไปพบคุณหมออีกครั้ง เพื่อตรวงเช็คแผล ก่อนกลับไทย ผลการผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี แผลสวยน่าจะค่อยๆ ยุบ คุณหมอบอกเราว่าครบ 1 สัปดาห์ให้ไปตัดไหมที่ประเทศไทยได้เลย หลังจากลาคุณหมอเสร็จพี่ BA ก็จะพาเรามาส่งที่โรงแรมเก็บกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวไปสนามบิน ซึ่งพอมาถึงเราก็รีบ check-in แล้วไปทำ tax refund เพื่อเคลมภาษีได้ 10% จากค่าทำ บอกเลยว่าคุ้มที่สุด

ต่อไปเราจะมาอัพเดตภาพที่ถ่ายเก็บไว้ค่ะ อิอิ
หลังจากที่ทำมาครบ 1 สัปดาห์ สังเกตได้ชัดว่าผิวเริ่มเด้งขึ้นมาแล้ววว

ผ่านไป 30 วัน

จนตอนนี้ครบ 2 เดือนแล้ว~~~

ตอนนี้แฮปปี้มากกกกก คือทุกคนทักกันเป็นเสียงเดียวว่าไปทำไร สวยขึ้นมากก เรารู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะเลย คือทั้งผิวหน้าที่เด้ง เรากล้าโชว์หน้าสดไปไหนมาไหน แถมดูเด็กลงมากด้วย (ตอนแรกที่ลังเลว่าต้องไปทำเลเซอร์ไกลถึงเกาหลีเลยหรอ แพงด้วย เพราะทำที่ไทยก็ได้ทั้งคอร์ส สรุปคือ ครั้งเดียวเห็นผลเลย มันคุ้มกว่าอีกนะ คงเป็นเพราะคุณหมอทำตรงจุดและเครื่องไม้เครื่องมือแบบนวัตกรรมมากๆ เห็นไปถึงผิวชั้นในจริงๆ) ส่วนตากับจมูกนี่ปลาบปลื้มเป็นที่สุด แนะนำเพื่อนๆ เลย “ใครอยากไปทำศัลยกรรมหรือเลเซอร์ที่เกาหลี ต้องไปกับชาร์มีอิน เท่านั้น” คือดีงามมากกกก ตั้งแต่การให้บริการจนไปถึงการดูแลของโรงพยาบาลและคุณหมอที่มีชื่อเสียงและเก่งมาก แถม ชอบที่สุดตรงที่ค่าใช้จ่ายที่โคตรแฟร์ จ่ายเงินตรงที่รพ.เกาหลี ไม่มีเก็บเงินก่อน แถมเรทเช็คได้ เป็นเรทเดียวกับคนเกาหลี!!!

ที่มา: https://pantip.com/topic/36599757

By | 2017-07-28T02:37:15+00:00 July 28th, 2017|Review|0 Comments

About the Author:

Leave A Comment